Medical Professionalism
/ 5 min read
อ.สุรชัย
สถานะของแพทย์ในสังคมเปลี่ยนไปจากอดีต อ.สุรชัย
การที่สถานะของแพทย์ในสังคมแตกต่างจากในอดีต ทำให้เกิดปัญหาต่อความเชื่อมั่น ความศรัทธาต่อวิชาชีพแพทย์ ส่งเสริมให้เกิดปัญหาการร้องเรียน ทั้งด้านการประพฤติตัวไม่เหมาะสมของแพทย์ หรือแม้กระทั่งการปฏิบัติงานของแพทย์เอง
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้ความศรัทธาในตัวแพทย์เปลี่ยนแปลงไป
- การสื่อสาร
- ความคาดหวัง
- ระบบที่มีปัญหา
- Society Change สังคมเปลี่ยนไป
- บทบาทของแพทย์ที่เปลี่ยนไป ในอดีตอาจจะเป็นลักษณะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่คิดมูลค่า
- สถานภาพ
The Challenge
ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ความสัมพันธ์ห่างไกลกันมากขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
What is Medical professionalism
I swear by Apollo Healer, by Asclepius, by Hygieia, by Panacea, and by all the gods and goddesses, making them my witnesses, that I will carry out, according to my ability and judgment, this oath and this indenture.To hold my teacher in this art equal to my own parents; to make him partner in my livelihood; when he is in need of money to share mine with him; to consider his family as my own brothers, and to teach them this art, if they want to learn it, without fee or indenture; to impart precept, oral instruction, and all other instruction to my own sons, the sons of my teacher, and to indentured pupils who have taken the Healer’s oath, but to nobody else.I will use those dietary regimens which will benefit my patients according to my greatest ability and judgment, and I will do no harm or injustice to them. Neither will I administer a poison to anybody when asked to do so, nor will I suggest such a course. Similarly I will not give to a woman a pessary to cause abortion. But I will keep pure and holy both my life and my art. I will not use the knife, not even, verily, on sufferers from stone, but I will give place to such as are craftsmen therein.Into whatsoever houses I enter, I will enter to help the sick, and I will abstain from all intentional wrong-doing and harm, especially from abusing the bodies of man or woman, bond or free. And whatsoever I shall see or hear in the course of my profession, as well as outside my profession in my intercourse with men, if it be what should not be published abroad, I will never divulge, holding such things to be holy secrets.Now if I carry out this oath, and break it not, may I gain for ever reputation among all men for my life and for my art; but if I break it and forswear myself, may the opposite befall me. - Hippocratic oath translation by W.H.S. Jones.
จาก Hippocratic oath ซึ่งถือเป็นบิดาทางการแพทย์สมัยใหม่ จะมีส่วนที่ต้องปฎิญาณตนต่อพระเจ้าว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่่อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ มีการขอบคุณครู และพระเจ้าตามความเชื่อในสมัยนั้น แสดงให้เห็นถึงลักษณะของการสร้างสถานะอาชีพที่มีแนวทางการปฏิบัติตนอย่างที่ได้ปฎิญาณตนเองไว้1
Profession and Occupation?
ความแตกต่างระหว่างวิชาชีพ และอาชีพ2
Meaning ในด้านความหมาย คำว่าอาชีพ หมายถึง “งานที่คนคนหนึ่งทำ” ส่วน วิชาชีพ หมายถึง “งานที่ได้รับค่าตอบแทน คนที่จะทำงานนี้ได้ต้องผ่านการเรียน และการประเมินเป็นระยะเวลาหนึ่ง”
Implications คำว่าอาชีพเป็นคำปกติทั่วไป แต่คำว่า วิชาชีพ จะสื่อความหมายไปถึงด้านสติปัญญา
Requirements อาชีพไม่ต้องการการรับรองคุณสมบัติ (Qualification) แต่ วิชาชีพ จะต้องมีการตรวจสอบรับรองคุณสมบัติ
อีกนัยหนึ่ง วิชาชีพจะต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้
- Specialized Knowledge
- Contract with Society
- Require public trust
Medical Professionalism
Definition
เป็นการยากที่จะแปลศัพท์ ”Medical Professionalism” ให้เข้าใจได้เหมือนกัน แต่ใจความหลักคือจะเป็นชุดของความสามารถ (Competency) และส่วนที่จะต้องสร้างความเชื่อใจกับสังคม (Trust) 34
มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามยุคสมัย แตกต่างตามวัฒนธรรมแต่ละพื้นที่ ในช่วงสมัยใหม่จะเกี่ยวข้องกับ Belief system แต่สุดท้ายเป้าหมายคือให้เกิดความเชื่อมั่น (trustworthy)
การที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ดีจะต้องหาจุดร่วมกันของความต้องการระหว่างหมอและผู้ป่วย ให้ตรงกันทั้งความต้องการและความคาดหวังของแต่ละฝ่าย
ภาษาไทย
แพทยสภา (2555) ให้ความหมายว่า “กรอบจารีตแห่งวิชาชีพแพทย์” ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น “ความเป็นวิชาชีพ” (2567)5
How to teach Medical Professional
การที่จะเกิด Professionalism จะต้องประกอบด้วยฐานรากต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ความรู้ความสามารถพื้นฐาน ประกอบไปกับ Domain ด้านอื่นๆ จนก่อให้เกิดเป็น “Professionalism” 6
เพราะฉะนั้นการจัดการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยหรือศูนย์แพทย์ฯ ต่างๆ จะต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะเลือกสอน Domain ไหน และทำอย่างไรให้สำเร็จตามที่ต้องการ
อย่าคาดหวังว่าจะได้เรียน ถ้าไม่จัดให้มีการเรียน
ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะ ในอดีตอาจจะไม่มีการจัดการเรียนการสอนเพราะคาดหวังว่า นักศึกษาแพทย์จะสามารถพัฒนาตนเองไปตาม Domain ต่างๆ ได้เอง แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่สามารถคาดหวังอะไรได้ แนวโน้มในปัจจุบันจึงมีการพยายามเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เป็นลักษณะ Informal หรือ Hidden curriculum ไปสู่ Formal Curriculum มีการจัดการสอน และการประเมินผลชัดเจน ส่งผลให้นักเรียนจะต้องตั้งใจเนื่องจากได้รับการถูกประเมิน
แนวทางการสอน
ต้องมีการกำหนดแนวทางการสอนที่ชัดเจน เช่น รูปแบบการสอน Formal Lecture หรือ Small group discussion เป็นต้น แล้วสร้างเป็น Matrix เพื่อติดตามผล ตั้งแกน X เป็น Educational Methodologies แกน Y เป็น Attributes of Professionlism เพื่อสร้างการเรียนรู้ให้ได้ตามที่คาดหวัง
หรือกรณีไม่ได้กำหนดวิธีการสอนชัดเจนอาจจะปรับเป็นแบบการสอนลักษณะ เกลียว คือสอนซ้ำทุกปี ในเรื่องเดิม แต่เพิ่มความยากความซับซ้อนขึ้นตามชั้นปี
หลักการสำคัญ คือต้องให้เกิด Exposure กับการปฏิบัติงานจริง เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ Expose ต่อสถานปฏิบัติงานมากกว่าเช่น แพทย์ประจำบ้าน (Resident) จะสอนได้ดีมาก เนื่องจากเห็นภาพชัดเจน
Role Models
We do not learn from experience. We learn from reflection from experience. — John Dewey 7
Role model มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อ Medical professionalism เนื่องจากนักศึกษาแพทย์มักจะมีการ Reflection role model ของตนเอง และเลียนแบบทุกๆ อย่าง
ความสำคัญ คือ ครูแพทย์จะเป็น Role Model ที่มีผลต่อ Professionalism ของนักศึกษาแพทย์เป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ Positive และ Negative จึงเกิดได้ทั้ง Constructive effects และ Destructive effects ตามลำดับ
เมื่อนักศึกษาแพทย์เห็น Role Model จะเห็นทั้งด้าน Positive และ Negative ครูแพทย์จะมีหน้าที่ผลักดันนักศึกษาแพทย์ในส่วนที่ควรจะเรียนรู้หรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างไร
6 สิ่งที่นักศึกษาแพทย์เรียนรู้จากครูแพทย์
We’re being asked to be professional in an unprofessional environment
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีมีผลอย่างมากต่อ Professionalism เพราะ Well-being มีความสัมพันธ์กับ Professionalism
การเรียนรู้หลักจะผ่านการสังเกตการณ์ (Observation) Role model
- Clinical Expertise
- Relationship with patients
- Relationship with colleagues
- Relationship with students
- Personality
- Inspirational
Assessment of Medical professionalism
สิ่งสำคัญที่สุดคือ นักศึกษาแพทย์ จะต้องประเมินตนเอง (Self-evaluation mechanism) One’s own performance
การวัดควรที่จะวัดถึงระดับ Does Miller pyramid เพราะฉะนั้นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลควรจะเป็น work-place based assessment หรือ 360 - assessment
Purpose of assessment
- Improving patient care
- Improving patient perception
- Improving perception of students and faculty
- Raising institutions awareness
- Identifying role models
- Continuous quality improvement of individual
ในการประเมิน ควรดู Time, Environment, Situation
สิ่งสำคัญ
- Identifying unprofessional behaviour ค้นหาพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการ
- Building an assessment system สร้างระบบการประเมินผลที่วัดได้จริง
- Appropriate tools เลือกใช้เครื่องมือในการประเมินที่เหมาะสม
การเรียน Professionalism จะมุ่งเป้าหมายเพื่อให้เกิดอัตลักษณ์ (Identity) ของแต่ละคน
Digital Professionalism
เป็นสิ่งน่าสนใจสำหรับยุคปัจจุบันเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อดิจิตอลต่างๆ และสังคม รูปแบบ Professionalism จึงอาจจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
จากวารสาร “Exploring digital professionalism” มีการนำเสนอ Framework ในสิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำกับสื่อดิจิตอล8
Proficiency | Reputation | Responsibility | |
---|---|---|---|
Professionals should | Establish and maintain appropriate competence in selecting and operating the technologies they use. Be mindful of security, confidentiality, accuracy, and clarity in information they create and use. | Maintain an appropriate online professional presence and guard against digital attack. Behave professionally and respectfully in all venues with all media at all times. | Model positive and effective digital behaviours to others. Maintain appropriate professional boundaries in communicating with and about their patients. |
Professionals should not | Waste time and resources by being unprepared for the professional use of digital media. Treat healthcare data with any less regard than they would treat the patients from whom it came. | Make public anything that they would not be comfortable defending in a court of law or in front of a disciplinary panel. Forget that what happens online stays online, potentially for ever. | Engage in illegal or inappropriate behaviour in any digital medium. Behave in reckless and ill-considered ways using digital media. |