เรื่องสำคัญสำหรับเรื่องนี้คือ ความหมายของ Study guide และนำไปใช้ได้อย่างไร
What is Study Guide?
A study guide can be anything that facilitates learning in a particular topic. It may be a textbook or other resource that fosters comprehension of literature, research topics, history, and other subjects. - Wikipedia1
A study guide is a tool designed to facilitate students interaction with the various components of the curriculum - R.M. HARDEN, J.M. LAIDLAW & E.A. HESKETH2
จากตัวอย่างการให้นิยามข้างต้น กล่าวโดยสรุปคือ “เครื่องมือ” สำหรับช่วยในการเรียนรู้ในลักษณะ Student-Centered Learning อาจจะเป็นในรูปแบบ Print หรือ Digital Copy ก็ได้
รูปแบบการเรียนรู้ ลักษณะ Student-Centered
- Direct-self dependent - เช่น อาจารย์ให้ เนื้อหาแต่ละคนไปอ่าน แล้วกลับมาคุยกัน
- Direct-self Independent เช่น อาจารย์สร้าง Online Learning Module มีกำหนดเนื้อหาไว้หมดแล้ว ให้ไปอ่านเองได้ แต่ไม่ต้องมาเจอผู้สอน
- Self-directed dependent เช่น นักศึกษาแพทย์ไปอ่าน Case ด้วยตนเองแล้วมาถามอาจารย์ หรือ Resident ทำวิจัย ที่กำหนดหัวข้อเองแล้วไปปรึกษาอาจารย์
- Self-directed independent เช่น เรียนเอง ปฏิบัติเอง ยกตัวอย่าง การหาเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสม
เปรียบเทียบ Study Guide กับรายละเอียดเนื้อหาที่ต้องไปศึกษาเอง
เนื้อหาที่จะเรียนมักจะมีเฉพาะ Content มีการให้เอกสารเพื่อไปอ่านเนื้อหาเพราะฉะนั้นนักศึกษาจะได้ใช้เทคนิคการเรียนเฉพาะการ “อ่าน” เพียงอย่างเดียว ส่วน Study Guide จะสามารถทำให้เกิด Activities ต่างๆ ได้จากตัวของ Study Guide เอง
Type of study guide
- Information-oriented เน้นเนื้อหา เช่นการแจกเอกสารประกอบการเรียนให้ไปศึกษามาก่อน
- Activity-oriented เน้นกิจกรรม เช่น ขึ้นปฏิบัติงานหรือมาเรียนในรายวิชานี้แล้วไปเรียนวันไหน ที่ไหน อย่างไร
- Management-oriented มีรายละเอียดส่วนที่เป็นเนื้อหาว่าจะเรียนอย่างไรบ้าง
What should contain
- Overview of topic อารัมภาบท เช่น เรื่องเกี่ยวกับอะไร
- Expected learning outcomes ความต้องการของผลลัพธ์การเรียนรู้หลังจากสิ้นสุดการศึกษา Study guide นี้
- Prerequisites ต้องดูว่ามีความรู้พื้นฐานอะไรมาก่อนจะศึกษา Study guide นี้ อาจจะใส่ Link หรือใส่เนื้อหาไปได้เลย
- Timetable ตารางกิจกรรม (ถ้ามี)
- Learning strategies แนะนำวิธีการเรียนอย่างไรให้ได้ผล
- Learning resources แนะนำสิ่งที่สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้
- Assessment information ข้อมูลรายละเอียดการประเมินต่างๆ
- Staff contacts รายละเอียดการติดต่ออาจารย์
- Personal comments เป็นส่วนที่สำคัญ เช่น อาจารย์สามารถให้ comment เพิ่มเติมได้ว่าประสบการณ์อาจารย์เคยทำแบบนี้แล้วใช้งานได้ดี (ไม่จำเป็นต้องมี Reference)
- Record of achievement บันทึกความก้าวหน้าในการเรียน เช่น เรียนไปถึงขั้นไหนแล้ว ให้บันทึกความคืบหน้าเอง
- Reference to text and journals ส่วนนี้จะมากกว่า Learning resources ให้บอกระบุ เฉพาะเจาะจงให้ชัดเจน ว่าอ่านหน้าไหนถึงหน้าไหน
- Quotation from text ถ้ามีการคัดลอกข้อความจาก textbook หรือหนังสือมาให้ใส่ อ้างอิงด้วย
- Glossary นิยามความหมายของคำต่างๆ เพื่อความเข้าใจมากขึ้น
- Self assessment แบบทดสอบเพื่อประเมินตนเอง มีเฉลยร่วมด้วย
วิธีการทำให้เกิด Interactive ใน Study Guide
- Question เช่น ให้ตั้งคำถามไปคุยกับแพทย์พี่เลี้ยง เพื่อมาตอบคำถามใน Study guide
- Student’s activity สร้างกิจกรรมต่างๆ ให้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Study guide
- Self assessment สามารถใช้ประเมินตนเองได้ ผ่านข้อสอบ หรือแบบประเมิน
ผู้มีส่วนร่วมในการทำ Study guide
- Content Expert - มักจะเป็นอาจารย์แพทย์ ที่จะมีความรู้ในเรื่องที่ต้องการจะสอน
- Educationalist - เป็นนักวิชาการศึกษา หรืออาจารย์ที่มีทักษะในการสอน การทำ Study Guide เพื่อให้เกิดการสร้าง Study Guide ที่มีประสิทธิภาพ
- Educational Technologist - นักเทคโนโลยีด้านการศึกษา เพื่อให้ Study Guide มีความทันสมัยและ Interactive มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพของ Study Guide
Principle ที่จะทำให้ Study guide ออกมาให้ดี
- Instruction - วิธีการใช้งานที่ชัดเจน
- Print - เทคนิคการพิมพ์ หรือการ Visualization
- Readability - อ่านรู้เรื่อง
- Legibility - อ่านออก
- Typography - รูปแบบตัวอักษร
- Layout - การจัดรูปแบบวางข้อความ
- Color - การใช้สี
- Printability - พิมพ์ออกมาได้
- Study Guide ในส่วนของ Study Guide จะใช้ตัวย่อ “TRACKER” ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ที่สำคัญเพื่อไม่ให้พลาดรายละเอียดต่างๆ
- T Targets
- R Route of study
- A Assessment activities
- C Core information
- K Key tips - เป็นส่วนที่ได้เปรียบของการทำ Study Guide เพราะอาจารย์สามารถใส่ tacit knowledge จากประสบการณ์ได้
- E Educational opportunities
- R Readable material